การพัฒนาอย่างยั่งยืน

Print This 

จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่รวดเร็วและซับซ้อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาล่วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องมีการปรับตัวในหลายๆ ด้าน และได้นำนโยบายตลอดจนแนวทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญ

นโยบายและเป้าหมายการจัดการด้านความยั่งยืน

เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ได้นำแนวทางและนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยคำนึงถึงทุกมิติ ได้แก่ สังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการยึดมั่นในนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะสามารถทำให้บริษัทฯ ดำเนินงานได้อย่างเติบโต มั่นคง ภายใต้ความรุนแรงของวิกฤติการณ์ และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลก โดยมุ่งเน้นที่จะส่งมอบนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายธุรกิจในด้านการจัดจำหน่ายสินค้า โดยเพิ่มสินค้าที่เป็นกลุ่มพลังงานทดแทนเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้พลังงานหลักได้

สำหรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น คณะทำงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การนำของกรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารระดับสูง ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอแผนงาน จัดทำแผนงาน ตลอดจนรายงานต่อคณะกรรมการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน และคณะกรรมการบริษัท โดยครอบคลุมใน 3 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลและเศรษฐกิจ ภายใต้การกำหนดเป้าหมาย และตัวชี้วัดที่เหมาะสมและชัดเจน สอดคล้องกับคู่มือการรายงานความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน (SET Sustainability Reporting Guide) ของตลาดหลักทรัพย์

กลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน

คณะทำงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้มีการกำหนด และทบทวนกลยุทธ์ที่ใช้ในการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้การมุ่งมั่นที่ส่งมอบประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยกลยุทธ์ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนครอบคลุมประเด็นที่สำคัญ เช่น การจัดหาเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัย ความรับผิดชอบต่อสินค้าและบริการ การลดการใช้พลังงานและการใช้พลังงานทดแทน การลดมลภาวะทางอากาศ การดูแลและพัฒนาบุคลากร การดูแลด้านความปลอดภัยในการทำงาน การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม เป็นต้น

  • กลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยบริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในองค์กร เพื่อบูรณาการด้านข้อมูลสารสนเทศ ระบบงาน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับพนักงาน ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และทันเวลา ที่จะส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นไป ตลอดจนลดมลภาวะทางอากาศ และลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในช่องทางต่างๆ สำหรับคู่ค้า และลูกค้า เพื่อให้การดำเนินงานกับทุกฝ่ายเป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง เชื่อถือและตรวจสอบได้ สำหรับในด้านผลิตภัณฑ์นั้น บริษัทฯ ได้ค้นหา ศึกษา ทดลอง และจัดหาสินค้าที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัยต่อการใช้งาน มาจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าและผู้บริโภค ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำเทคโนโนโลยีใหม่ ปลอดภัยให้กับสังคมไทย
  • กลยุทธ์การจัดการอย่างโปร่งใส เป็นธรรม เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยได้มีการวางโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมต่อการกำกับดูแลและรายงาน อีกทั้งยังมีช่องทางการสื่อสารที่สนับสนุนที่เอื้อต่อการกำกับดูแล อีกทั้งยังมีการกำหนดจรรยาบรรณธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย มีการบริหารความเสี่ยงที่จะช่วยให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการติดตามที่ทำให้สามารถเชื่อมั่นได้ว่า กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ จะสามารถนำแนวทางต่างๆ ไปใช้อย่างเหมาะสม ที่จะส่งผลต่อธรรมาภิบาลขององค์กร
  • กลยุทธ์ด้านการดูแลพนักงาน โดยบริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางในการดูแลด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะภายในองค์กร โดยมุ่งหวังที่จะให้พนักงานได้ใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และเปิดกว้างทางความคิด ภายใต้หลักของความยุติธรรม เท่าเทียม การเคารพ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาบุคลากรควบคู่ไปกับการเติบโตของบริษัทฯ โดยจัดให้มีสวัสดิการที่เหมาะสม เครื่องมือการทำงานที่เหมาะสม ทันสมัย สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เส้นทางการเติบโตในสายงาน ตลอดจนค่าตอบแทนที่เหมาะสม

การจัดการผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ

ห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ

บริษัทฯ ประกอบธุรกิจขายส่งคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติต่างๆ ในประเทศไทย มีกิจกรรมหลักคือการสรรหาผลิตภัณฑ์จากคู่ค้า การจัดหาเงินทุนจากแหล่งต่างๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การกระจายสินค้าและบริการต่อผู้ค้ารายย่อยเพื่อนำส่งต่อไปยังผู้ใช้งาน รวมไปถึงกิจกรรมทางการตลาด การขายและการให้บริการหลังการขายอีกด้วย ในส่วนของกิจกรรมสนับสนุน นอกเหนือไปจากการจัดการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เช่น การบริหารพัฒนาองค์กร ระบบต่างๆ ที่ใช้ในการทำงาน อาคารสถานที่และระบบสาธารณปูโภคแล้ว บริษัทฯ ยังมีกิจการในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับทั้งการใช้งานภายในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสำหรับจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าและผู้ใช้งานได้ประโยชน์คุ้มค่าสูงสุดอีกด้วย

ผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ

บริษัทฯ ได้จัดกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในวงจรห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจของบริษัทฯ เป็นผู้มีส่วนได้เสียจากภายในอันได้แก่ ผู้ถือหุ้นและพนักงาน โดยมีผู้มีส่วนภายนอกได้แก่ คู่ค้า หน่วยงานกำกับดูแล สถาบันการเงิน ลูกค้าและผู้บริโภค ซึ่งล้วนเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดีและความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดและตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ผู้มีส่วนได้เสีย ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย ตัวอย่างกิจกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย
ผู้ถือหุ้น
  1. ผลตอบแทนจากการลงทุน
  2. ผลการดำเนินงานที่ดีและการเติบโตอย่างยั่งยืน
  3. การกำกับดูแลกิจการที่ดี
  4. การเปิดเผยข้อมูลที่ทันท่วงที ชัดเจนและโปร่งใส
  1. ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง
  2. การเปิดเผยข้อมูลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเว็บไซต์และรายงานประจำปี (56-1 One Report)
  3. การเข้าร่วมกิจกรรมพบปะนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอการเข้าร่วม Opportunity Day ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอและการแถลงผลดำเนินงานทุกไตรมาส
  4. การสื่อสารผ่านช่องทางนักลงทุนสัมพันธ์
  5. การจัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี
พนักงาน
  1. ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี
  2. ความปลอดภัยในการทำงาน
  3. ความมั่นคงและการเติบโตในองค์กร
  4. การได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
  5. การรับฟังข้อเสนอแนะ
  1. การกำหนดค่าตอบแทนที่เป็นธรรม รวมทั้งสวัสดิการในด้านต่างๆ เช่น สวัสดิการเบิกค่ารักษาพยาบาล โบนัสประจำไตรมาส และโบนัสประจำปี
  2. การส่งเสริมด้านสุขภาพ อาชีวอนามัยและความปลอดภัย เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การติดตั้งอุปกรณ์ฆ่าเชื้อในสำนักงาน
  3. การสร้างเส้นทางการเติบโตในสายงานให้กับพนักงาน รวมทั้งการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้อย่างสม่ำเสมอ
  4. การสร้างช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือตลอดจนปัญหา ข้อร้องเรียนต่างๆ อย่างเต็มที่ เช่น การจัดประชุมย่อย หรือการจัดประชุมใหญ่ประจำเดือน ช่องทางสื่อสารโซเชียลมีเดีย ตลอดจนสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานสามารถรับคำปรึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในบริษัทฯ ได้อย่างอบอุ่น
คู่ค้า
  1. ความร่วมมือทางธุรกิจที่ดี
  2. ส่วนแบ่งการตลาดตามเป้าหมาย
  3. การเติบโตอย่างยั่งยืน
  1. การสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดี ตลอดจนอัพเดทเทคโนโลยีและแผนการดูแลลูกค้า
  2. สร้างคุณค่าในสินค้าให้เป็นที่ยอมรับต่อลูกค้า และผู้บริโภค
ลูกค้า
  1. สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม
  2. ผลตอบแทนและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ
  3. การพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง
  1. จัดหาสินค้าและบริการที่มีกำไรที่เหมาะสม ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านการกระจายสินค้า และวงเงินสินเชื่อ
  2. การสื่อสารผ่านหลายๆ ช่องทางที่บริษัทฯ อำนวยความสะดวก
ผู้บริโภค
(ผู้ที่ใช้สินค้าและบริการของบริษัทฯ ที่จัดจำหน่ายผ่านทางลูกค้าซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย)
  1. สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม
  2. ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
  1. จัดหาสินค้าและบริการที่คุณภาพและราคาเหมาะสม
  2. จัดหาสินค้าที่มีความปลอดภัย และช่วยส่งเสริม อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน
สถาบันการเงิน
(ผู้ช่วยส่งเสริมสภาพคล่องในการดำเนินและขยายธุรกิจ)
  1. การปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มีต่อกัน
  2. การเปิดเผยข้อมูลที่ทันท่วงที ชัดเจนและโปร่งใส
  1. ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มีต่อสถาบันการเงินอย่างเหมาะสม
  2. การสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ ผ่านช่องทางการประชุม การพบปะผู้บริหาร เป็นต้น
หน่วยงานกำกับดูแล
(อาทิเช่น กรมสรรพากร กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นต้น)
  1. การปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
  2. การทำหน้าที่พลเมืองที่ดีของประเทศ
  1. ดำเนินธุรกิจอย่างสอดคล้องกับกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับของหน่วยงานภาครัฐอย่างเคร่งครัด ตลอดจนกำกับดูแลให้มีการชำระภาษีอย่างสม่ำเสมอ
  2. การปรับตัวตามนโยบายใหม่ๆ อยู่เสมอ
ชุมชน/สังคม
  1. ควบคุมและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ
  2. สนับสนุนกิจกรรมและมีส่วนร่วมกับชุมชน
  1. การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการวางแผนเส้นทางการเดินรถเพื่อลดมลภาวะทางอากาศ พร้อมทั้งมีโครงการลดมลพิษต่างๆ อาทิเช่น การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน การติดตั้งแหล่งพลังงานทดแทนจากโซล่าเซลล์ เป็นต้น
  2. โครงการสร้างโอกาสอย่างยั่งยืนด้วยการจ้างงานผู้ที่จบการศึกษาใหม่เพื่อช่วยในการสร้างโอกาส อาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดี

การจัดการด้านความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม

นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นทุกวันจนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต บริษัทฯ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ดำเนินกิจการภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดีและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ จึงได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการต่างๆ อาทิเช่น การลดการใช้พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่จำเป็น โดยมุ่งหวังในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนร่วมกัน เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งแวดล้อมที่ดีก็จะนำมาซึ่งการเติบโตอย่างยั่งยืนเช่นกัน

การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม

เพื่อให้บรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ตามนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ มีการดำนเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการลดปัญหาที่ยั่งยืน สรุปโครงการที่สำคัญได้ดังนี้

1) กระบวนการจัดหาสีเขียว (Green Procurement)

บริษัทฯ มีกระบวนการจัดหาสีเขียวโดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำของธุรกิจ คือการจัดหาสินค้าและบริการจากคู่ค้าเพื่อจำหน่าย โดยมุ่งเน้นในการจัดหาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้แก่ระบบผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ หลอดไฟที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ หลอดไฟ LED แบบต่างๆและ EV Charger ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการสีเขียว นั่นคือธุรกิจ Cloud ซึ่งใช้ระบบในการเก็บข้อมูลแทนการใช้วัสดุสิ้นเปลือง โดยปัจจุบันมีลูกค้าผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 970 บริษัท นอกเหนือจากกระบวนการจัดหาแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจระหว่างทางจึงมีการเลือกใช้แอปพลิเคชั่น Sky Frog เพื่อส่งเสริมการขนส่งสีเขียว (Green Logistic) รวมถึงปลายน้ำของธุรกิจนั่นคือการเรียกเก็บเงินซึ่งมีการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้กระดาษดังรายละเอียดโครงการต่างๆ ที่จะกล่าวต่อไป

2) สินค้าปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Safe and Green Products)

บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสินค้าที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าและสินค้านับว่าเป็นหัวใจสำคัญของห่วงโซ่อุปทานที่จะทำให้ความมุ่งมั่นนี้สัมฤทธิ์ผล ในการคัดเลือกคู่ค้าและสินค้า บริษัทฯ มีการกำหนดนโย บายที่ชัดเจนและมีทีมงานในการศึกษา และติดตามเทคโนโลยี ตลอดจนวิศวกรรมการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่บริษัทฯ คัดเลือกมาจำหน่ายนั้น เป็นสินค้าที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ตลอดจนผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ สินค้าที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยนั้น บริษัทฯ มีมาตรการดูแลให้ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม

3) ขนส่งสีเขียว (Green Logistics)

บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดมลพิษ และฝุ่นละอองในอากาศ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในสังคมไทย ทั้งนี้ตลอดห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ นั้น กระบวนการจัดการโลจิสติกส์ที่ดี จะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ลงทุนในระบบการจัดการโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Logistics) โดยเลือกใช้แอปพลิเคชั่น Sky Frog

Sky Frog เป็นซอฟต์แวร์แบบ Cloud บนระบบ Windows Mobile ที่สามารถคำนวณเส้นทางที่ใช้น้ำ มันเชื้อเพลิงน้อยที่สุด และประหยัดเวลาในการเดินทางที่สุดให้ผู้ขับขี่ ซึ่งทำให้การวางเส้นทางการจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างแม่นยำ และส่งผลให้ลดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดมลพิษ และฝุ่นละอองในอากาศในที่สุด นอกจากนี้ระบบดังกล่าวสามารถตรวจสอบยานพาหนะด้วย Global Positioning System (GPS) ที่เชื่อมต่อกับ Cloud Computing ซึ่งสำนักงานใหญ่สามารถตรวจสอบเส้นทางยานพาหนะได้ในแบบทันที (Real Time) และยังสามารถแสดงมาตรวัดความเร็วช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความเร็วของยานพาหนะซึ่งสามารถลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกด้วย

4) Electronic Workflow

บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบ Electronic workflow เพื่อทดแทนการพิมพ์เอกสารเพื่อเสนอขออนุมัติต่างๆ มามากกว่า 20 ปี จนปัจจุบัน มี Electronic workflow ที่ใช้ในการดำเนินการมากกว่า 100 ระบบ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยระบบการแจ้งเตือนที่ทันสมัยแล้ว ระบบเหล่านี้ยังสามารถช่วยประหยัดการใช้ทรัพยากรกระดาษได้มากอีกด้วย

5) E- Billing เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

นอกเหนือจากโลจิสติกส์แล้ว กิจกรรมการวางบิลก็สามารถสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ไม่น้อยกว่ากิจกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระดาษสิ้นเปลือง หรือการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่เพื่อวางบิล บริษัทฯ ได้เล็งเห็นผลกระทบในด้านนี้ จึงได้พัฒนาระบบ E - Billing ซึ่งเป็นระบบที่ให้คู่ค้าสามารถวางบิลกับบริษัทฯ ผ่านทางเว็บไซต์ www.sisthai.com โดยไม่ต้องขับขี่ยานพาหนะ เพื่อมาวางบิลที่บริษัทฯ โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง และภาวะโลกร้อน จากการขับขี่ยานพาหนะ และการใช้กระดาษได้เช่นกัน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รณรงค์ให้คู่ค้าเลิกใช้การวางบิลแบบเดิม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากคู่ค้าเป็นอย่างดีตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

6) ใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

เนื่องด้วยลักษณะธุรกิจของบริษัทฯ ที่เป็นการจำหน่ายสินค้าและบริการที่มีการออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จให้ลูกค้าอยู่เสมอ บริษัทฯ จึงเล็งเห็นโอกาสในการลดการใช้ทรัพยากรกระดาษลงโดยการออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แทนรูปแบบกระดาษ ซึ่งระบบดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ภายหลังการเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นมา พบว่าระบบนี้ช่วยลดต้นทุนและการใช้ทรัพยากรกระดาษลงอย่างมาก

7) ระบบห้องประชุมอัจฉริยะ

การประชุมนับเป็นอีกกิจกรรมที่บริษัทฯ ให้การสนับสนุน และเสริมสร้างเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ให้พนักงานทุกคนได้อภิปราย และระดมความคิด ผ่านการประชุม ไม่ว่าจะเป็นการประชุมภายในองค์กร การประชุมกับคู่ค้า หรือการประชุมกับลูกค้า ด้วยโครงสร้างภายในของบริษัทฯ ที่มีพนักงานที่อยู่พื้นที่นอกเหนือจากสำนักงานใหญ่เป็นจำนวนมาก ทำให้การจัดการประชุมเป็นไปอย่างสิ้นเปลืองทรัพยากร และเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกทั้งยังสร้างมลภาวะทางอากาศอีกด้วย

เพื่อเป็นการลดการใช้ทรัพยากร และมลภาวะทางอากาศ บริษัทฯ จึงได้ปรับปรุงระบบห้องประชุม โดยได้ลงทุนทั้งด้านของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เพื่อพัฒนาระบบห้องประชุมทั้งหมดให้เป็นห้องประชุมอัจฉริยะ (Smart Meeting Room) โดยสามารถจัดการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือการประชุมออนไลน์ ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไร้ข้อจำกัดในด้านสถานที่ และระยะทาง

8) อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน

บริษัทฯ มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้พลังงาน จึงมีนโยบายใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงาน อาทิเช่น การใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไฟแบบเก่าทั้งที่สำนักงานใหญ่และที่คลังสินค้าซึ่งหลอดไฟ LED จะมีอายุการใช้งานนานกว่า โดยจากการทดสอบสามารถใช้งานได้นานถึง 60,000 – 100,000 ชั่วโมงโดยที่ความสว่างไม่ลดลง เมื่อเทียบกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่มีอายุการใช้งานประมาณ 10,000 ชั่วโมงเท่านั้นและให้ค่าอัตราความสว่างได้ถึง 80 – 120 ลูเมน/วัตต์ ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้มากกว่า 2 เท่า การใช้ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติโดยใช้ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว การตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ การจัดวางผังสำนักงานให้มีสวิตช์ไฟแยกเป็นส่วนๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้เปิดไฟในเฉพาะพื้นที่ที่จำเป็นได้

9) การส่งเสริมความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงาน

การปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานนับเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง บริษัทฯ จึงได้บรรจุหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมลงในระบบ E-learning ของบริษัทฯ ที่พนักงานทุกท่านสามารถเข้าถึงได้ รวมไปถึงการเข้าร่วมโครงการ ESG DNA ซึ่งเป็นโครงการอบรมเกี่ยวกับการจัดการด้านธรรมาภิบาล สังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านระบบการเรียนรู้ด้วยตนเองของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เมื่อพนักงานมีความรู้ ความเข้าใจและจิตสำนึกในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม จะทำให้พนักงานร่วมมือกันปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ อย่างเต็มใจ อาทิเช่น การกำหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการปิดไฟในช่วงพักเที่ยงและเลิกงานหรือเมื่อไม่มีพนักงานทำงานในส่วนนั้นๆ การปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม การปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จหรือเมื่อไม่มีความจำเป็น เป็นต้น

10) การติดตั้งแหล่งพลังงานทดแทน (โซล่าเซลล์)

ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายระบบโซล่าเซลล์ซึ่งแหล่งพลังงานทดแทนเพื่อเป็นทางเลือกในแก่ผู้บริโภค นอกจากช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคในระยะยาวแล้ว ระบบโซล่าเซลล์ยังเป็นวิวัฒนาการสำคัญในการลดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ อยู่ในระหว่างกระบวนการดำเนินการเตรียมการติดตั้งโซล่าเซลล์ ณ คลังสินค้าของบริษัทฯ โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ครอบคลุมปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบริษัทฯ ทั้งหมด

บริษัทฯ มีแผนเริ่มต้นด้วยการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์สำหรับผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพื่อใช้งานที่คลังสินค้าซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 และจะดำเนินการติดตั้ง ณ สำนักงานอื่นๆ ต่อไปโดยคาดว่าการติดตั้งทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปี 2575

11) เป้าหมายและแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม

จากปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้นในปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุหลักมาจากการกระทำของมนุษย์ บริษัทฯ ได้เล็งเห็นและพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาว โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าให้มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608 เพื่อสนับสนุนการประกาศเจตนารมย์ของรัฐบาลไทยที่ได้ประกาศต่อที่ประชุมสมัชชาประเทศภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change) ครั้งที่ 26 หรือ COP 26 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ว่าประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และจะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี 2608

บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการจัดการด้านพลังงาน ทรัพยากรน้ำ ขยะ ของเสีย และมลพิษก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ โดยการได้พัฒนาเทคโนโลยี กระบวนการทำงาน รวมไปถึงการจัดหาสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการทำงานและในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ภายใต้การดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ยั่งยืน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • พลังงาน

    เป้าหมายระยะสั้น สามารถผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ทดแทนปริมาณการใช้ไฟฟ้าของคลังสินค้าที่ใช้จากการไฟฟ้านครหลวงทั้งหมด ภายในปี 2569 ซึ่งในปี 2566 (ปีฐาน) มีปริมาณการใช้ไฟฟ้า ณ คลังสินค้าเท่ากับ 371,935 หน่วย (kWh) คิดเป็นราวร้อยละ 30 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้ารวมของทั้งบริษัทฯ (สำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขาต่างๆ และคลังสินค้า) ซึ่งเท่ากับ 1,208,885.65 หน่วย (kWh)

    กลยุทธ์ ติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนจากโซล่าเซลล์ ณ คลังสินค้า ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติโดยใช้ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว รณรงค์ให้ทุกคนประหยัดไฟและการให้พนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้าน

    เป้าหมายระยะยาว สามารถผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ทดแทนการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งหมดภายในปี 2575

    กลยุทธ์ ติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนจากโซล่าเซลล์ ณ ทุกสำนักงาน ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติโดยใช้ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว รณรงค์ให้ทุกคนประหยัดไฟและการให้พนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้าน

  • ก๊าซเรือนกระจก

    เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บริษัทฯ เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรโดยใช้แนวทางการกำหนดขอบเขตองค์กรแบบควบคุมการดำเนินงาน (Operational control) และคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยอ้้างอิิงจากองค์์การบริิหารจััดการก๊าซเรือนกระจก version AR5 ซึ่งสอดคล้้องกัับ The Fifth Assessment Report: AR5 ของ International Panel on Climate Change (IPCC) และเป็นการเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมการปล่่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่่ 1 และ 2 ในพื้นที่สำนักงานใหญ่ ศูนย์บริการไอทีมอลล์ คลังสินค้า สำนักงานขายและศูนย์บริการต่างจังหวัด ดังรายละเอียดต่อไปนี้

    • การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากยานพาหนะและเครื่องผลิตไฟฟ้าสำรอง การรั่วซึมของสารทำความเย็นและถังดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมทั้งก๊าซมีเทนจากระบบบำบัดน้ำเสีย
    • การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 2 เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดจากการใช้้กระแสไฟฟ้้าในการดำเนินธุรกิจ โดยใช้ข้อมูลการใช้กระแสไฟฟ้าในหน่วย kWh ตามการเรียกเก็บของทั้งการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

      เป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรืือนกระจกในขอบเขตที่ 2 ลงร้อยละ 30 ภายในปี 2569 (เทียบกับปี 2566 เป็นปีฐาน) และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี 2608

      กลยุทธ์ แม้ว่าด้วยลักษณะธุรกิจของบริษัทฯ ที่มิได้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตในปริมาณที่มีนัยสำคัญ แต่บริษัทฯ ก็มีนโยบายลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในทุกจุดที่มีความเกี่ยวข้องเพื่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยเริ่มจากกระบวนการทำงานต่างๆ ภายในองค์กร

    • การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 มุ่งเน้นไปที่การบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเดินทางเพื่อปฏิบัติงานของพนักงาน โดยการวางแผนการเดินทางที่รอบคอบ ลดความซ้ำซ้อนในการเดินทาง และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย อาทิเช่น การประชุมหรือพบปะลูกค้าและคู่ค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
    • การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 2 มีแผนการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ชดเชยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากระบบของการไฟฟ้านครหลวง โดยเริ่มจากการติดตั้งที่คลังสินค้าร่มเกล้าเพื่อให้คลังสินค้าสามารถใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ทั้งหมด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบระบบโดยมีแผนติดตั้งประมาณกลางปี 2567 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งในปี 2566 คลังสินค้ามีการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ ทั้งสิ้น 371,935 หน่วย ซึ่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 186 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • ทรัพยากรน้ำ

    เป้าหมาย เนื่องด้วยลักษณะธุรกิจของบริษัทฯ เป็นธุรกิจการจัดหาและจำหน่ายสินค้าที่มิได้มีการใช้ทรัพยากรน้ำในกระบวนการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยในปัจจุบันเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยการใช้น้ำของคนไทยที่มีค่าเฉลี่ยวันละ 50 - 200 ลิตรต่อคน ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่า บริษัทฯจึงมีเป้าหมายในการรักษาระดับปริมาณการใช้ทรัพยากรน้ำให้ไม่เกินกว่าค่าเฉลี่ยการใช้น้ำของคนไทย

    กลยุทธ์ แม้ว่าลักษณะธุรกิจของบริษัทฯจะมิได้มีการใช้ทรัพยากรน้ำในกระบวนการดำเนินธุรกิจมากอย่างมีนัยสำคัญดังกล่าวข้างต้น แต่บริษัทฯ ก็เล็งเห็นความสำคัญและสนับสนุนการรักษาทรัพยากรน้ำ โดยรณรงค์ให้พนักงานทุกคนใช้น้ำอย่างประหยัด นอกจากนี้ยังมีการดูแลปิดวาล์วน้ำในช่วงวันหยุดและตรวจสอบอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุกรณีท่อน้ำประปาแตก รวมถึงนโยบายการให้พนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้านที่ช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำ และจะยังคงแนวทางปฏิบัติเหล่านี้เพื่อสนับสนุนการรักษาทรัพยากรอย่างยั่งยืนต่อไป

  • ขยะ ของเสียและมลพิษ

    เป้าหมาย ถึงแม้ว่าด้วยลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯที่ทำให้บริษัทฯ มิได้มีขยะและของเสียซึ่งบริษัทฯ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกำจัด การบำบัด การปรับเสถียร การใช้ซ้ำ (Reuse) และ/หรือการรีไซเคิล (Recycle) แต่อย่างใด แต่บริษัทฯ ก็ให้ความสำคัญกับการลดปริมาณขยะ ของเสียและมลพิษ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมโดยรวมและต้องการให้องค์กรถูกขับเคลื่อนไปอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงมีเป้าหมายในการลดปริมาณขยะ ของเสียและมลพิษลงอย่างต่อเนื่องโดยใช้กลยุทธ์ต่างๆโดยเฉพาะเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วย

    กลยุทธ์ บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบ electronic workflow มาใช้ทดแทนแบบฟอร์มที่เป็นกระดาษมามากกว่า 20 ปี จนปัจจุบัน บริษัทฯ มี workflow ที่ใช้ช่วยดำเนินการมากกว่า 100 ระบบ รวมทั้งการใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือถ้าจำเป็นต้องใช้กระดาษ บริษัทฯ มีการรณรงค์ให้ใช้กระดาษ 2 หน้า หรือการนำระบบ QR Code มาใช้สำหรับการดาวน์โหลดเอกสารการประชุมแทนการพิมพ์เอกสาร เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการคัดแยกประเภทขยะ สิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ยังสามารถใช้งานได้ จะถูกนำไปบริจาคให้กับหน่วยงานหรือผู้ที่มีความต้องการต่อ อีกทั้งการให้พนักงานทำงานจากบ้านก็เป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยลดมลพิษลงได้จากการประหยัดทรัพยากรในการเดินทาง

การจัดการด้านความยั่งยืนในมิติสังคม

นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสังคม

สังคมและชุมชนนับเป็นอีกหนึ่งผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสำคัญ บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการทำธุรกิจของบริษัทฯ อาจส่งผลกระทบทางด้านสังคมได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสังคมขึ้นผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการกับผู้มีส่วนได้เสียภายในคือพนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียภายนอกอันได้แก่ลูกค้า คู่ค้า และชุมชน ตลอดการมุ่งหวังในการจำหน่ายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคม โดยเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนโดยใช้วิธีการสร้างให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีสาระที่สำคัญดังนี้

พนักงานและแรงงาน

หนึ่งในวิสัยทัศน์และภารกิจของบริษัทฯ คือให้โอกาสที่ดีและสนับสนุนพนักงานให้สามารถทำงานตามศักยภาพ เป็นครอบครัวที่อบอุ่น และเติบโตไปด้วยกัน บริษัทฯ มีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน โดยให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติด้านแรงงานและการเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นธรรม เท่าเทียม และไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งในด้านการจ้างแรงงาน การจ่ายค่าตอบแทน การเลื่อนตำแหน่ง การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน โดยไม่แบ่งแยกความแตกต่างทางเพศ อายุ สถาบันการศึกษา เชื้อชาติ และศาสนา รวมทั้งการจ้างพนักงานจากบริษัทภายนอกเข้ามาทำงานในบริษัทฯ ผู้สูงอายุและผู้พิการเพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และรายได้ที่มั่นคง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

นอกจากนั้น เพื่อให้พนักงานทุกคนเกิดความรู้สึกผูกพันเป็นครอบครัวเดียวกับองค์กร ผ่านการดำเนินงานด้านพนักงานที่สำคัญดังนี้

  1. การจ้างงาน

    เพื่อให้พนักงานมีโอกาสทำงานที่ชอบและตรงกับความถนัด เมื่อบริษัทฯ มีแผนการจ้างพนักงานเพิ่ม บริษัทฯ จะเปิดโอกาสให้พนักงานปัจจุบันสามารถสมัครได้ก่อน โดยพนักงานจะต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกจากหน่วยงานที่ต้องการรับด้วยกระบวนการเดียวกับการรับพนักงานใหม่ และเปิดโอกาสให้พนักงานแจ้งให้ทราบเมื่อต้องการย้ายไปทำงานในลักษณะงานแบบอื่นที่ถนัด ซึ่งบริษัทฯ จะพิจารณาความเหมาะสมในทุกกรณีที่พนักงานแจ้งให้ทราบ

    บริษัทฯ สนับสนุนการให้โอกาสอย่างเท่าเทียมโดยไม่เลือกปฏิบัติโดยการสร้างอาชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการโดยบริษัทฯ มีการจ้างผู้สูงอายุและผู้พิการเป็นพนักงานและนำส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการครบถ้วน ตรงตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ

    นอกจากนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น บริษัทฯ โดยคณะกรรมการบริษัทได้จัดทำนโยบายการจ้างพนักงานรัฐขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานอีกด้วย

  2. การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร

    บริษัทฯ มีนโยบายส่งเสริมให้พนักงานได้รับการพัฒนาความรู้ ศักยภาพและความสามารถทั้งตามสายงานและทักษะเพิ่มเติมอื่นๆ ที่จะช่วยส่งเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนมีทัศนคติที่ดี เพื่อให้มีการเติบโตเจริญก้าวหน้าไปพร้อมกับบริษัทฯ โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง การฝึกอบรม การสัมมนา

  3. ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

    บริษัทฯ ส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ดีดังนี้

    1. ก) ตรวจสุขภาพประจำปี

      บริษัทฯ จัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับพนักงานทุกคน โดยเป็นการตรวจสุขภาพอย่างครอบคลุมและเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเลือกตรวจเพิ่มเติมนอกเหนือจากโปรแกรมมาตรฐานที่บริษัทฯจัดขึ้นได้ เพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพดีให้พนักงานจากข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง พร้อมอำนวยความสะดวกให้พนักงานโดยการจัดให้มีแพทย์เข้ามาแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อให้มีสุขภาพดีและตอบข้อสงสัยต่างๆ ให้กับพนักงานที่สำนักงานของบริษัทฯ

    2. ข) การสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านวัคซีน

      เพื่อป้องกันโรคที่มีโอกาสติดต่อสูง บริษัทฯ จัดให้พนักงานฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ในราคาร้อยละ 50 ของต้นทุน โดยบริษัทฯ ช่วยออกให้อีกร้อยละ 50 และอำนวยความสะดวกโดยให้พยาบาลมาฉีดให้ที่บริษัทฯ ซึ่งหากพบว่ามีโรคระบาดอื่นๆ อีก บริษัทฯ จะปรึกษาหน่วยงานอนามัยเพิ่มเติมเพื่อหาทางป้องกันโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

    3. ค) การจัดให้พนักงานทำงานจากบ้าน

      เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมลภาวะทางอากาศในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้มีมาตรการให้พนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้าน ลดการเดินทางและกำชับพนักงานให้ดูแลและป้องกันตนเอง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดหาอุปกรณ์ให้พนักงานเพื่อใช้ทำงานที่บ้าน เช่น โน๊ตบุ๊ค จอคอมพิวเตอร์ หูฟัง เพื่อให้ทำงานสะดวกยิ่งขึ้น

    4. ง) นโยบายในการลาคลอด

      บริษัทฯ มีนโยบายสำหรับพนักงานสามารถลางานได้ไม่เกิน 98 วัน โดย 45 วันแรกยังได้รับเงินเดือนตามปกติ และยังมีนโยบายในการพยายามให้พนักงานที่ลาคลอด สามารถกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมที่ถนัดได้

    5. จ) ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

      บริษัทฯ มีการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการปฏิบัตงาน โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบสถานที่ทำงานให้มีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการจัดหาอุปกรณ์การทำงานที่มีการมีความปลอดภัยสูงมาใช้งาน รวมไปอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน บริษัทฯ ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์หลอดไฟ UV-C สำหรับฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในอากาศในบริษัทฯ โดยใช้การตั้งเวลาให้เปิด-ปิดเครื่องแบบอัตโนมัติในช่วงเวลากลางคืนที่ไม่มีคนอยู่ เพื่อให้ความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นกับพนักงาน

      ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการปรับตัวในเรื่องโรคโควิด-19 ขึ้นมาก แต่บริษัทฯ ยังคงแนวทางในการป้องกันโรคโควิด-19 ตามมาตรการของ DMHT ซึ่งเป็นแนวทางปฎิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ใช้ในการชะลอการระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ดังนี้

      • Distancing คือการเว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร เพราะละอองฝอย จากการพูด ไอ จาม จะฟุ้งมากในระยะ 1-2 เมตร
      • Mask Wearing คือการสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยเพื่อลดการฟุ้งกระจายของละอองฝอย โดยบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในสถานที่ทำงาน
      • Hand Washing คือการหมั่นล้างมือบ่อยๆ ทั้งน้ำสบู่ และเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เพราะมีโอกาสที่เราจะนำมามาสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัวได้ ซึ่งทางบริษัทฯ จัดวางเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน
      • Testing คือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอ และหากทราบว่ามีประวัติไปพื้นที่เสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจโควิด-19 อีกทั้ง บริษัทฯ มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิในการผ่านเข้า-ออกสถานที่ทำงาน เพื่อช่วยคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงได้รวดเร็วขึ้น
    6. ฉ) โครงการต้นกล้าที่ยั่งยืน

      บริษัทฯ เชื่อมั่นในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาบุคลกรให้มีศักยภาพ เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับองค์กร โดยตั้งแต่ปี 2559 ได้มีการคัดเลือกบุคลากรจากภายในองค์กรเข้าสู่โครงการต้นกล้าที่ยั่งยืนเพื่อให้บุคลากรเหล่านั้นได้พัฒนาศักยภาพให้เติบโตในระดับผู้บริหารเป็นต้นกล้าที่ยั่งยืนของบริษัทฯ ต่อไป ทั้งนี้ ในโครงการจะมีหลักสูตรพัฒนาความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ ซึ่งบุคลากรที่อยู่ในโครงการจะได้รับการอบรมภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจที่สถาบันสอนภาษาในสหราชอาณาจักร และหลักสูตรการพัฒนาบุคลิกภาพสู่การเป็นผู้บริหารโดยสถาบันชั้นนำ เป็นต้น

ลูกค้า

บริษัทฯ มีการคัดเลือกสินค้ามาจำหน่ายโดยคำนึงถึงคุณภาพ ความคุ้มค่า คงทน ความปลอดภัย และการไม่มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องว่ามีแนวทางการคัดเลือกสินค้าที่ดี รวมไปถึงการรับประกัน และบริการหลังการขาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า นอกเหนือจากศูนย์บริการในกรุงเทพมหานครที่เปิดทำการทุกวันแล้ว บริษัทฯ ได้เปิดศูนย์บริการในจังหวัดหลักอีก 5 แห่งได้แก่เชียงใหม่ ขอนแก่น อุบลราชธานี ภูเก็ตและสงขลา (หาดใหญ่)

คู่ค้า

บริษัทฯ ตระหนักดีว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรต้องอาศัยการพัฒนาร่วมกันของผู้มีส่วนได้ทุกภาคส่วน รวมทั้งคู่ค้า จึงมีการจัดทำจรรยาบรรณคู่ค้าขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการทำงานร่วมกัน ให้การดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าเป็นไปอย่างเหมาะสม โปร่งใสและเป็นธรรม เคารพต่อสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ปราศจากการเอารัดเอาเปรียบ รวมทั้งการเปิดโอกาสให้คู่ค้าสามารถร้องเรียนในกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินกิจการกับบริษัทฯ นอกจากคู่ค้าซึ่งเป็นผู้ขายผลิตภัณฑ์ให้แก่บริษัทฯ แล้วบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับคู่ค้าที่เป็นบริษัทภายนอกที่บริษัทฯ ว่าจ้างให้เข้ามาทำงานด้วยการขยายสวัสดิการเพิ่มให้พนักงานของบริษัทคู่ค้าเหล่านี้

ชุมชน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชุมชนมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม บริษัทฯ จึงสนับสนุนการพัฒนาชุมชนไปพร้อมๆกับการดำเนินธุรกิจ โดยที่ผ่านบริษัทฯ มีโครงการที่ช่วยพัฒนาชุมชน ดังต่อไปนี้

  1. โครงการสร้างโอกาสอย่างยั่งยืน

    เพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงมีนโยบายในการพัฒนาบุคคลซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการร่วมกันพัฒนาชุมชน บริษัทฯ มีโครงการจ้างงานผู้ที่จบการศึกษาใหม่เพื่อช่วยในการสร้างโอกาส อาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองในการพัฒนาธุรกิจและชุมชน นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมและพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

  2. โครงการขับขี่ปลอดภัยไร้กังวล

    ด้วยลักษณะธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งโดยหลักเป็นการนำเข้าและจำหน่ายสินค้า การขนส่งสินค้าจึงเป็นหนึ่งในกระบวนการหลักของการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือไปจากการขนส่งสีเขียวเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมดังที่กล่าวไว้ข้างต้น บริษัทฯ ก็มีนโยบายการทำประกันรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งสินค้าให้แก่พนักงานขนส่งสินค้าซึ่งเป็นการจ้างงานจากภายนอกเพื่อคลายปัญหา ความกังวลใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพนักงาน เนื่องจากตระหนักดีว่า พนักงานกลุ่มนี้เป็นเสมือนครอบครัวและชุมชนที่ใกล้ชิดกับบริษัทฯ

การพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจและสังคม

การปรับเข้าสู่ Data Driven Company

การเปิดให้พนักงานทุกคนนำข้อมูลมาใช้ในงานเพื่อช่วยการตัดสินใจ ช่วยเพิ่มยอดขาย ช่วยลดค่าใช้จ่าย ช่วยบริหารสินค้าคงคลัง ฯลฯ เป็นสิ่งที่บริษัทฯ พยายามดำเนินการมาตั้งแต่ต้น ซึ่งแม้บริษัทฯ จะใช้ระบบ ERP ชั้นนำของโลกพร้อมระบบ Business Intelligence ที่เปิดให้พนักงานทุกคนเข้าไปค้นหา วิเคราะห์ข้อมูลได้ แต่พบว่ามีพนักงานเพียงร้อยละ 2 ที่เข้าไปใช้งาน เพราะเป็นระบบที่ใช้งานยาก ขาดความคล่องตัวในการเปลี่ยนไปค้นหาข้อมูลแบบใหม่ๆ เมื่อความต้องการใช้ข้อมูลเปลี่ยนไป ทำงานช้าและหลายกรณี ต้องปรับแต่งข้อมูลทุกครั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลในรูปแบบที่ต้องการ ฯลฯ โดยมีพนักงานอีกประมาณร้อยละ 5 นำข้อมูลที่พนักงานกลุ่มแรก (ร้อยละ 2) เตรียมไว้บน Microsoft Excel ไปวิเคราะห์โดยใช้ Pivot Table ของ Microsoft Excel ที่ต้องมีความชำนาญในการใช้ส่วนวิเคราะห์ข้อมูลของ Excel จึงจะสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งนับว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในแง่การเป็นบริษัทที่ทำงาน/ตัดสินใจด้วยข้อมูล

เพื่อให้การเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ จึงได้นำเครื่องมือใหม่ชื่อ ThoughtSpot เข้ามาใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อให้พนักงานสามารถเข้ามาใช้ข้อมูลได้ง่ายขึ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนพนักงานที่เข้ามาใช้ข้อมูล ThoughtSpot ที่เป็นระบบ Search and AI-Driven Analytics Platform ที่ใช้งานง่าย โดยใช้แนว Search คล้ายกับการใช้งาน Seach Engine ของ Google ที่พนักงานทุกคนคุ้นเคย โดยเริ่มย้ายข้อมูลออกจากระบบเดิมมาไว้ในระบบใหม่ตั้งแต่ปี 2565 และเริ่มใช้งานในปี 2566 โดยระบบนี้ เปิดให้สามารถค้นหาข้อมูลด้วยการบันทึก keyword เข้าไปในกล่อง search ก็จะเริ่มได้ข้อมูลที่สามารถนำมาแสดงได้ทั้งแบบตารางและแบบแผนภาพ

เมื่อเริ่มใช้งาน จะมีกล่องให้บันทึกที่สามารถบันทึกข้อมูลที่ต้องการค้นหาในกล่อง ก็จะเริ่มได้ข้อมูล ที่สามารถบันทึกข้อความต่าง ๆ เพื่อกำหนดกรอบของข้อมูลหรือเพิ่มข้อความอื่น ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม

ในการใช้งาน ผู้ใช้สามารภบันทึก keyword ลงในกล่อง search เช่นบันทึกคำว่า “sales”, “yearly” และ “last 5 years” ระบบก็จะค้นหาข้อมูลและแสดงผลเป็นแผนภาพแสดงยอดขายรวมของบริษัทฯ สำหรับ 5 ปีที่ผ่านมาทันที โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกการแสดงผลข้อมูลในรูปแบบตารางได้ด้วยเช่นกัน ด้วยการกดเลือกที่สัญลัษณ์รูปตราง โดยผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดข้อมูลที่ประมวลผลแล้วออกมาใช้งานกับโปรแกรมอื่นๆ ได้โดยง่ายอีกด้วย

ผู้ใช้งานสามารถกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลตามต้องการได้ เช่น การระบุชื่อลูกค้าหรือชื่อสินค้าในกล่อง search ก็จะได้ข้อมูลเฉพาะลูกค้ารายนั้นหรือสินค้านั้นออกมา รวมทั้งสามารถเก็บรูปแบบการค้นหาข้อมูลเพื่อนำมาใช้ภายหลังซ้ำได้ สามารถแชร์รายงานที่เตรียมไว้ให้พนักงานอื่นได้ ทำให้เกิดการแบ่งปันรูปแบบการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูล ที่ทำให้เกิดมุมมองอื่นๆ ที่หลากหลายขึ้น

Thougtspot เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยในการปรับองค์กรให้เป็น Data Driven Company ที่มีการใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจดำเนินงาน โดยพบว่า หลังการเปลี่ยนแปลงมาใช้งานระบบ ThoughSpot และเริ่มต้นนำข้อมูลด้านการขายที่ผ่านมาเข้าไปในระบบ พบว่าจำนวนผู้ใช้งานข้อมูลในระบบเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญจากเดิมร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 56 ซึ่งจำนวนผู้ใช้งานจะเพิ่มสูงขึ้นอีกเมื่อเพิ่มข้อมูลด้านอื่นๆ เข้าไปในระบบ ซึ่งเชื่อว่าระบบนี้ช่วยส่งเสริมให้พนักงานทุกคนเข้าถึงและนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่ทำให้การดำเนินงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียที่มีส่วนเกี่ยวข้อง